10 ก.ย. 2556

แนวข้อสอบรวบๆ 2

แบบทดสอบ
การพัฒนาแผนและโครงการอาชีพ
อช.32001ระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย

1. ข้อใดไม่ใช่ความหมายของโครงการ
ก. กิจกรรมที่มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด
ข. การวางแผนล่วงหน้าและจัดทำอย่างเป็นระบบ
ค. กิจกรรมที่สามารถวิเคราะห์วางแผนและนำไปปฏิบัติได้
ง. กิจกรรมที่ไม่ต้องมีการวางแผนไว้ล่วงหน้าสามารถปฏิบัติได้เลย

2. ลักษณะของโครงการที่ดีเป็นอย่างไร
ก. สามารถติดตามและประเมินผลได้
ข. ตอบสนองความต้องการของกลุ่มชน
ค. มีระยะเวลาการดำเนินงานที่แน่นอน
ง. ถูกทุกข้อ

3. ข้อใดไม่ใช่ความหมายที่ถูกต้องของการออม
ก. การเก็บเงินที่หามาได้โดยไม่จ่ายอะไรเลย
ข. ส่วนของรายได้ที่เหลืออยู่หลังจากการอุปโภค
ค. การเก็บเงินไว้ใช้จ่ายในยามจำเป็นและฉุกเฉิน

4. ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้เกิดการออม
ก. รายได้                    ข. อัตราดอกเบี้ย
ค. สถาบันการเงิน       ง. ของขวัญและของรางวัล

5. ข้อใดเป็นเป็นประเภทของการออม
ก. การออมโดยมีดอกเบี้ยและไม่มีดอกเบี้ย
ข. การออมด้วยตนเองและการออมโดยผู้อื่น
ค. การออมด้วยความสมัครใจและการถูกบังคับ
ง. การออมโดยการฝากประจำและออมโดยการฝากเผื่อเรียก

6. ข้อใดไม่ใช่วัตถุประสงค์ของการวางแผน
ก. การวางแผนทำให้ลดความไม่แน่นอน
ข. การวางแผนทำให้เกิดความเสียหายซ้ำซ้อน
ค. การวางแผนทำให้รู้มาตรฐานในการควบคุม
ง. การวางแผนทำให้รู้ทิศทางในการดำเนินงาน

7. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของการเขียนโครงการ
ก. งบประมาณ                        ข. วัตถุประสงค์
ค. การกำหนดอายุโครงการ    ง. การประเมินผลโครงการ

9. ข้อใดเป็นขั้นตอนแรกของการวางแผน
ก. ระบุปัญหา                   ข. กำหนดวัตถุประสงค์
ค. รวบรวมและแปลข้อมูล
ง. กำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบ

10. การตรวจสอบผลงานและการติดตามว่าการปฏิบัติงานนั้นเป็นอย่างไรอยู่ในข้อใดของการวางแผน
ก. การศึกษาแผน        ข. การประเมินผล
ค. การจัดระบบและประสานงาน
ง. การกำหนดระยะเวลาการปฏิบัติงาน

11. ข้อใดคือการจัดการความรู้ (KM, Knowledge Management))
ก. การระบุปัญหา
ข. การจัดสรรทรัพยากร
ค. การพัฒนาระบบข้อมูลไปสู่สารสนเทศ
ง. การรวบรวม สร้าง จัดระเบียบ แลกเปลี่ยนและประยุกต์ใช้ความรู้

12. ข้อใดไม่ใช่ระดับความรู้
1. ความรู้เชิงทฤษฏี (Know-What) เป็นความรู้เชิงข้อเท็จจริง รู้อะไร เป็นอะไร จะพบในผู้ที่สำเร็จการศึกษามาใหม่ๆ ที่มีความรู้โดยเฉพาะความรู้ที่จำมาได้จากความรู้ชัดแจ้งซึ่งได้จากการได้เรียนมาก แต่เวลาทำงาน ก็จะไม่มั่นใจ มักจะปรึกษารุ่นพี่ก่อน
2. ความรู้เชิงทฤษฏีและเชิงบริบท (Know-How) เป็นความรู้เชื่อมโยงกับโลกของความเป็นจริง ภายใต้สภาพความเป็นจริงที่ซับซ้อนสามารถนำเอาความรู้ชัดแจ้งที่ได้มาประยุกต์ใช้ตามบริบทของตนเองได้ มักพบในคนที่ทำงานไปหลายๆปี จนเกิดความรู้ฝังลึกที่เป็นทักษะหรือประสบการณ์มากขึ้น
3. ความรู้ในระดับที่อธิบายเหตุผล (Know-Why) เป็นความรู้เชิงเหตุผลระหว่างเรื่องราวหรือเหตุการณ์ต่างๆ ผลของประสบการณ์แก้ปัญหาที่ซับซ้อน และนำประสบการณ์มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้อื่น เป็นผู้ทำงานมาระยะหนึ่งแล้วเกิดความรู้ฝังลึก สามารถอดความรู้ฝังลึกของตนเองมาแลกเปลี่ยนกับผู้อื่นหรือถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้พร้อมทั้งรับเอาความรู้จากผู้อื่นไปปรับใช้ในบริบทของตนเองได้
4. ความรู้ในระดับคุณค่า ความเชื่อ (Care-Why) เป็นความรู้ในลักษณะของความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ที่ขับดันมาจากภายในตนเองจะเป็นผู้ที่สามารถสกัด ประมวล วิเคราะห์ความรู้ที่ตนเองมีอยู่ กับความรู้ที่ตนเองได้รับมาสร้างเป็นองค์ความรู้ใหม่ขึ้นมาได้ เช่น สร้างตัวแบบหรือทฤษฏีใหม่หรือนวัตกรรม ขึ้นมาใช้ในการทำงานได้
ง. (know-where)

13. ข้อใดไม่เป็นความรู้แบบชัดแจ้ง
ก. เว็บไซต์         ข. หนังสือ
ค. วัฒนธรรมองค์กร
ง. คู่มือการปฏิบัติงาน

14. ความรู้ที่เชื่อมโยงกับโลกของความเป็นจริงภายใต้สภาพความเป็นจริงที่ซับซ้อน
ก. ความรู้เชิงทฤษฎี  (Know-What)
ข. ความรู้ระดับที่อธิบายเหตุผล (Know-How)
ค. ความรู้เชิงทฤษฎีและเชิงบริบท (Know-Why)
ง. ความรู้ในระดับคุณค่าความเชื่อ (Care-Why)

16. ข้อใดเป็นทุนทางสังคม
ก. ทุนทางวัฒนธรรม         ข. ทุนทรัพยากรบุคคล
ค. ทุนทรัพยากรธรรมชาติ   ง. ถูกทุกข้อ

17. “ผู้บริโภคสนใจซื้อเฉพาะสินค้าที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีพเท่านั้น”เน้นแนวคิดทางการตลาดข้อใด
ก. ความคิดมุ่งการขาย              ข. ความคิดมุ่งการตลาด
ค. ความคิดเกี่ยวกับการผลิต     ง. ความคิดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

19. “งานที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลการจัดทำสารสนเทศและการสนับสนุนสารสนเทศ ได้แก่บุคคลและหน่วยงานต่างๆ ภายในองค์การที่ต้องใช้” ข้อความข้างต้นเป็นความหมายของข้อใดต่อไปนี้
ก. ข้อมูล            ข. สารสนเทศ
ค. ระบบสารสนเทศ        ง. ผิดทุกข้อ

21. ข้อใดคือประโยชน์ของการบันทึกรายรับ-รายจ่าย
ก. สามารถวางแผนการใช้จ่ายได้
ข. ทราบว่ามีเงินคงเหลือเท่าใดในแต่ละวัน
ค. ทำให้ทราบรายรับรายจ่ายตลอดทั้งเดือน
ง. ถูกทุกข้อ

22. ใครปฏิบัติตนในการดำรงชีวิตเพื่อให้มีรายได้และมีเงินทุนเพื่อใช้ในการขยายอาชีพ
ก. แดงปลูกผักสวนครัวหลายอย่าง
ข. น้ำเรียนหนังสือโดยขอเงินจากพ่อแม่
ค. แดงทำนาเสร็จแล้วนอนพักผ่อนอยู่บ้าน
ง. ไก่หาอาชีพเสริมหลังจากการทำงานประจำและยังจดบันทึกรายรับ รายจ่ายเป็นประจำ

23. ใครรู้จักวางแผนการใช้จ่ายเงิน
ก. ราตรีซื้อของทุกอย่างที่ตัวเองอยากได้
ข. นภาไม่ซื้อของกินเลยแต่ชอบขอเพื่อนกิน
ค. ดวงใจอยากได้โทรศัพท์จึงขอเงินแม่ไปซื้อ
ง. ลัดดาซื้อเฉพาะของใช้ที่จำเป็นและเงินที่เหลือก็เก็บออมไว้

24. กระบวนการที่ทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มประโยชน์ใช้สอยและมูลค่าในการแลกเปลี่ยน  ข้อความดังกล่าวเป็นความหมายของข้อใด
ก. การขาย         ข. การผลิต
ค. การตลาด      ง. การแลกเปลี่ยน

25. ข้อใดคือคุณภาพในการบริการ
ก. รูปร่าง สีสันสดใส ทนทาน
ข. รูปลักษณ์โดดเด่น ดึงดูดความสนใจ
ค. ประสิทธิภาพในการทำงานความเหมาะสม
ง. การสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ

26. ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยหรือต้นทุนในการผลิต
ก. วัตถุดิบ            ข. แรงงาน
ค. ผลิตภัณฑ์       ง. การบริหารจัดการ

27. การวัดกำลังการผลิตวัดได้จากอะไร
ก. แรงงานและเงินทุน            ข. ผลผลิตและแรงงาน
ค. เงินทุนและปัจจัยการผลิต   ง. ผลผลิตและปัจจัยการผลิต

29. ข้อใดเป็นปัจจัยที่ทำให้การจัดอาชีพประสบความสำเร็จ
ก. สภาพการเงินที่มั่นคง          ข. การจัดการอย่างมีคุณภาพ
ค. การใช้ทรัพย์สินอย่างคุ้มค่า   ง. ถูกทุกข้อ

30. การผลิตและการควบคุมระบบการผลิตเพื่อให้ได้สินค้าที่มาตรฐานประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้ยกเว้นข้อใด
ก. กิจการจะต้องมีกำไรมากที่สุด
ข. วัตถุดิบที่ใช้ผลิตควรมีคุณภาพสูงแต่ราคาต่ำ
ค. กระบวนการผลิตต้องมีความพร้อมทั้งคนและเครื่องมือ
ง. ผลผลิตจะต้องผ่านการตรวจสอบและประเมินอย่างเที่ยงตรง


แนวข้อสอบรวมๆ

แนวข้อสอบรวมๆ มีหลายวิชาปนกัน ลองอ่านนักดู...
1.ข้อใดไม่ใช่ความหมายของศาสนา
ก. ความเชื่อถือ การปฏิบัติ          ข. คำสอนเกี่ยวที่เกี่ยวกับศีลธรรม
ข. คำสอนเกี่ยวกับเรื่องลึกลับ     ง. การศรัทธาบูชาพระเจ้า

2.ลัทธิหรือศาสนาที่มีหลักการและเหตุผลทางวิทยาศาสตร์คือข้อใด
ก. อิสลาม           ข. คริสต์            ค. ฮินดู             ง.  พุทธ

3.ความหมายของ ศาสนาตามหลักสากล คืออะไร
ก. ทำให้ผู้ปฏิบัติมีความสุข
ข. มีมาตรฐานการดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง
ค. คำสอนขาดเหตุผลแต่ประชาชนยังปฏิบัติตาม
ง. จุดรวมแห่งความเคารพนับถืออันสูงส่งของมนุษย์

4.ตรีมูรติ ของศาสนาพราหมณ์ คืออะไร
ก. หลักธรรม     ข. เทพเจ้า      ค. คัมภีร์        ง. พิธีกรรม

5.โมกษะ มีความหมายที่ถูกต้องที่สุดตรงกับข้อใด
ก. การหลุดพ้นจากบ่วงมาร และสังสารวัฏ
ข. การหลุดพ้นจากอวิชชา ตัณหา และอุปทาน
ค. การหลุดพ้นพันธะเครื่องผูกพันจากกองทุกข์ในโลก
ง. การหลุดพ้นจากทุกข์โดยสิ้นเชิงและตลอดไปเป็นถืออุดมคติอันสูงสุด

6.การโกรธเคืองใครแต่ทำอะไรเขาไม่ได้ จัดอยู่ในอริยสัจสี่ข้อใด
ก. ทุกข์            ข. สมุทัย              ค. นิโรธ        ง. มรรค

7.เหตุใดจึงต้องมีการสังคายนาพระไตรปิฎก
ก. หลักคำสอนมิได้แบ่งเป็นหมวดหมู่ชัดเจน    
ข. หลักคำสอนของพระพุทธเจ้าสูญหายไป
ค. หลักคำสอนของพระพุทธเจ้าเข้าใจได้ยาก
ง. ผู้ปฏิบัติให้หลักคำสอนคลาดเคลื่อนไปจากของเดิมมาก

8.การเรียนรู้เรื่องไตรลักษณ์ ข้อใดสำคัญสุด
ก. ชีวิตทุกชีวิตต้องแตกดับ      
ข. ธรรมชาติของชีวิตไม่อาจยั่งยืนได้
ค. การเปลี่ยนแปลงของชีวิตเป็นธรรมชาติ
ง. การกระทำทั้งปวงต้องรอบคอบไม่ประมาท

9. ศาสนาคริสต์เกิดขึ้นในกลุ่มชนชาติที่เคยนับถือศาสนาใดมาก่อน
ก. ศาสนายูดาย                 ข. ศาสนาอิสลาม  
ค. ศาสนา กรีกโบราณ       ง. ศาสนาโรมันโบราณ

10. ข้อใดคือความหมายของคำว่า ตรีเอกานุภาพ ในศาสนาคริสต์
 ก. มนุษย์ต้องมีความรัก 3 ลักษณะคือ รักตนเอง รักเพื่อนมนุษย์ และรักพระเจ้า
 ข. หน้าที่ของพระเจ้า 3 ประการคือ ผู้สร้าง ผู้รักษา และผู้ทำลาย
 ค. พระเจ้ามีองค์เดียว แต่มี3บุคคลคือ พระบิดา พระบุตร และพระจิต
 ง. ให้เชื่อว่าพระเจ้าแปลงร่างได้ 3 ลักษณะคือพระบิดา พระบุตร และพระจิต

11. หลักศรัทธาในศาสนาอิสลาม หมายถึงศรัทธาในข้อใด
ก. เชื่อในความดีโดยไม่หวังผล     ข. เชื่อในพระเจ้าเพียงผู้เดียว
ค. เชื่อในประกาศิตของพระอัลเลาะห์
ง. เชื่อในพระเจ้า คัมภีร์ และกำหนดภาวการณ์ของพระเจ้า


12. จุดประสงค์ที่สำคัญของการถือศีลอด คือข้อใด
ก. ทำให้มีความอดทน            ข .เห็นคุณค่าของอาหาร
ค. มีความเป็นพวกเดียวกัน     ง. ฝึกให้มีเมตตาธรรมเมื่อเห็นคนหิว

13. ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองการปกครองในสมัยอยุธยา
ก. มีลักษณะการปกครองแบบเทวสิทธิ์
ข. มีรัฐธรรมนูญเป็นหลักในการปกครอง
ค. มีการปกครองส่วนกลางเป็นแบบจตุสดมภ์
ง. มีการปกครองในระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์

14. ข้อใดมิใช่ผลที่เกิดจากการใช้ระบอบการปกครองในสมัยพ่อขุนรามคำแหง
ก. เกิดความสามัคคีภายในชาติ
ข. พระมหากษัตริย์ทรงมีฐานะเป็นสมมุติเทพ
ค. ผู้ปกครองและผู้อยู่ใต้การปกครองมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด
ง. ทำให้เกิดการวางรากฐานเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพของคนไทย

15. การปกครองระบอบประชาธิปไตยถือหลักข้อใดสำคัญสุด
ก. ต้องมีระบบพรรคการเมือง     ข. ต้องมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
ค. นายกฯ ต้องมาจากการเลือกตั้ง    ง. ถือเสียงข้างมากในการตัดสิน

16. หน้าที่สำคัญของรัฐสภาคือข้อใด
ก. ออกกฎหมายรวมทั้งแก้ไข      ข. ควบคุมและตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาล
ค. ให้ความเห็นชอบกิจการสำคัญของประเทศ
ง. ถูกทุกข้อ

17.ข้อใดไม่ใช่อำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศไว้ 3 ประการ
ก. อำนาจการปกครอง      ข. อำนาจนิติบัญญัติ
ค. อำนาจบริหารง.       อำนาจตุลาการ

18.ใครเป็นผู้กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี
ก. ประชาชน            ข. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ค. ประธานสภาผู้แทนฯ    ง. กฎหมาย

19.กฏหมายในข้อใดที่รัฐบาลประกาศใช้ได้โดยไม่ต้องผ่านการพิจารณาของรัฐสภา
ก. กฎหมายรัฐธรรมนูญ     ข. พระราชกฤษฎีกา
ค. พระราชกำหนด     ง. พระราชบัญญัติ


20.สิ่งใดที่รัฐ กระทำมิได้ตามกฎหมาย
ก. ให้เสรีภาพประชาชนในการนับถือศาสนา
ข. ให้เสรีภาพประชาชนในการเดินทางในประเทศ
ค. ให้เสรีภาพในการเลือกถิ่นที่อยู่อาศัย
ง. ให้เงินอุดหนุนหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนของเอกชน

21.บุคคลที่จะเป็นคนไร้ความสามารถได้เมื่อใด
ก. แพทย์สั่ง  ข. เจ้าหน้าที่รัฐสั่ง  ค. บิดามารดาสั่ง  ง. ศาลสั่ง

22.กฎหมายอาญาเป็นกฎหมายที่บัญญัติเกี่ยวกับเรื่องใด
ก. ลักษณะการกระทำและสภาพจิตใจ
ข. ลักษณะความผิดและบทลงโทษ
ค. ลักษณะของการรับผิดชอบทางอาญา
ง. ลักษณะการกระทำที่เป็นความผิด

23. การหมั้นของผู้เยาว์จะสมบูรณ์เมื่อได้รับจากใครเมื่อผู้เยาว์มีทั้งบิดาและมารดา
ก. บิดาข. มารดา   ค. บิดาและมารดาง. บิดาหรือมารดา
24.ข้อใดคือความหมายของวิชาเศรษฐศาสตร์
ก. เป็นวิชาที่ศึกษาถึงระบบการซื้อขายสินค้าให้สมดุลกัน
ข. เป็นวิชาที่ศึกษาถึงปัญหาขั้นพื้นฐานของมนุษย์ในการผลิต ผลิตอย่างไร เพื่อใคร
ค. ศึกษาเกี่ยวกับการประกอบอาชีพให้ได้ผลผลิตพอกับความต้องการของตลาด
ง. ศึกษาเกี่ยวกับการจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดให้พอกับความต้องการของมนุษย์

24.ในระบบการแลกเปลี่ยนสินค้ามีวงจรอย่างไร
ก. ครัวเรือน ปัจจัยการผลิต สินค้า ผู้ผลิต
ข. ผู้ผลิต ปัจจัยการผลิต สินค้า ครัวเรือน
ค. ครัวเรือน ผู้ผลิต ปัจจัยการผลิต สินค้า
ง. ผู้ผลิต ครัวเรือน ปัจจัยการผลิต สินค้า

25. รายได้ประชาชาติหมายถึงข้อใด
ก. มูลค่าของสินค้าและการบริการขั้นปฐมภูมิ โดยคิดราคารวมในระยะเวลา1 ปี
ข. มูลค่าของสินค้าและการบริการขั้นสุดท้าย โดยคิดราคารวมในระยะเวลา1 ปี
ค. รายได้ของประชากรรวมกันทั้งในและต่างประเทศ คิดจากการขายสินค้าและบริการในช่วงระยะเวลา 1 ปี
ง. มูลค่าของสินค้าและการบริการขั้นสุดท้าย โดยคิดเป็นตัวเงินที่ผลิตขึ้นจากทรัพยากรในประเทศในระยะเวลา 1 ปี

26. เงินทำหน้าที่อย่างไร จึงถือว่ามีความสำคัญต่อผู้ปริโภคและผู้ผลิต
ก. เป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยน   ข. เก็บมูลค่าของสินค้า
ค. มาตรฐานชำระหนี้ในอนาคต  ง. เป็นมาตรฐานการวัดมูลค่า

27.ข้อใดหมายถึง สภาพคล่องตัวสูง ในแง่ของเงิน
ก. สามารถแบ่งหรือเปลี่ยนเป็นส่วนย่อยได้ โดยมูลค่าคงที่
ข. เปลี่ยนเป็นสิ่งของหรือบริการอย่างอื่นได้ทันที
ค. ขนย้ายหรือพกพาได้สะดวก
ง. มีมูลค่าคงที่ไม่เปลี่ยนแปลงง่าย

28.ธกส.เป็นสถาบันการเงินประเภทใด
ก. บริษัทเงินทุน    ข. ธนาคารพาณิชย์
ค. ธนาคารของรัฐบาล    ง. สหกรณ์

29. หน้าที่สำคัญที่สุดของธนาคารแห่งประเทศไทยคืออะไร
ก. ออกและพิมพ์ธนบัตร    ข. รักษาทุนสำรองเงินตรา
ค. เป็นนายธนาคารของรัฐบาล   ง. รักษาเสถียรภาพทางการเงินของชาติ

30.หน่วยงานใดเป็นแกนหลักในการจัดทำงบประมาณแผ่นดิน
ก. กรมบัญชีกลาง        ข. สำนักงานงบประมาณ
ค. กระทรวงการคลัง    ง. ธนาคารแห่งประเทศไทย

31. สภาพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติเป็นหน่วยงานในสังกัดใด
ก. กระทรวงมหาดไทยข. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ค. สำนักนายกรัฐมนตรีง. กระทรวงการคลัง

32. คำว่า ภาษี เริ่มใช้ในรัชกาลใด
ก. รัชกาลที่ 1   ข. รัชกาลที่ 2   ค. รัชการที่ 3   ง. รัชกาลที่ 4

33.ภาวะเงินเฟ้อ มีผลต่อระบบเศรษฐกิจโดยส่วนรวมอย่างไร
ก. สินค้าล้นตลาด      ข. การว่างงานสูงขึ้น
ค. ราคาสินค้าสูงขึ้น   ง. สินค้ามีราคาดุลยภาพ

34.ข้อใดเป็นนโยบายที่รัฐใช้ในการแก้ปัญหาเงินเฟ้อ
ก. ลดอัตราภาษีอากร       ข. ลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก
ค. เพิ่มรายจ่ายในส่วนของรัฐมากขึ้น
ง. เลื่อนโครงการใหญ่ๆไปทำในอนาคต

35.สาเหตุของเงินฝืด คือข้อใด
ก. มีปริมาณเงินทุนหมุนเวียนในประเทศมาก
ข. มีปริมาณสินค้ามากเกินความต้องการ
ค. มีปริมาณสินค้าน้อยไม่พอขาย
ง. ราคาของปัจจัยการผลิตสูง

36.ข้อใดคือวรรณกรรมที่เก่าแก่ที่สุดซึ่งเป็นคัมภีร์ทางศาสนาอินเดีย
ก. พระเวท ข. สามเวท ค. ไตรเวท ง. มหากาพย์ภารตะ

37.การปกครองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนเป็นคำกล่าวของใคร
ก. ยอร์จ วิชิงตัน    ข. อับราฮัม ลินคอล์น
ค. โทมัส เจฟเฟอร์สัน    ง. แฟรงคลิน ดี รูสเวลส์

38.จุดมุ่งหมายที่สำคัญที่สุดของ องค์การสหประชาชาติ คือข้อใด
ก. ส่งเสริมสิทธิมนุษยชน
ข. ส่งเสริมกฎหมายระหว่างประเทศ
ค. บูรณะประเทศที่เสียหายจากสงคราม
ง. ธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างนประเทศ

39 สาเหตุอะไรที่ทำให้ฝนมีสภาพเป็นกรด
ก. ไนโตรเจนออกไซด์     ข. ซัลเฟอร์ไดออกไซด์
ค. คาร์บอนไดออกไซค์      ง. คาร์บอนมอนออกไซค์

3 ก.ย. 2556

ตอบคุณ mariya manya

คุณ mariya manya ถามคำถามที่น่าสนใจมาว่า
5 x 625 x 5ยกกำลัง2 = ?

เราสามารถ เปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์ที่ถูกต้องและหาคำตอบได้ดังนี้
5 x 625 x 52 = 5 x 54 x 52 = 5 1+4+2 = 57

คุณ mariya manya และทุกคนที่สนใจสามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
www.kruteeworld.com  หัวข้อเลขยกำลัง

ตัวอย่างโจทย์คณิตศาสตร์

1. ผลต่างของ 4 เท่าของจำนวนๆหนึ่งกับ 20 เท่ากับ ผลบวกของ 10 กับ 2  เท่าของจำนวนนั้น จำนวนนั้นคือ จำนวนใด
วิธีทำ ให้จำนวนนั้นคือ x
ผลต่างของ 4 เท่าของจำนวนๆหนึ่งกับ 20 = 4x + 20
ผลบวกของ 10 กับ 2  เท่าของจำนวนนั้น = 10 + 2x
จะได้
4x + 20 = 10+2x
 4x – 2x = 10 – 20
         2x = -10
           x = -10/2
           x = -5

2.  ก้อยมีเงิน 600 บาท ซื้อสมุด 3 เล่ม แล้วเหลือเงิน 210 บาทสมุดค่าเล่มละเท่าไหร่
วิธีทำ ให้สมุดราคาเล่มละ  m   บาท
จะได้สมการคือ
600 – 3x = 210
        -3x = 210 – 600
        -3x = -390
           x = -390/ -3
           x = 130

พื้นที่และปริมาตรของรูปทรง
1. สามเหลี่ยมรูปหนึ่งฐานกว้าง 12 นิ้ว สูง 9 นิ้ว
พื้นที่ = (1/2) × ฐาน × สูง = (1/2) × 12 × 9 = 6×9 = 54 ตารางนิ้ว
2. สี่เหลี่ยมรูปหนึ่งมีความกว้าง 20 เมตร ยาว 24 เมตร 
2.1 มีเส้นรอบรูปยาว = 2×(กว้าง + ยาว)
   = 2×(20 + 24) = 2×44 = 88 เมตร
2.2 มีพื้นที่ = กว้าง × ยาว = 20 × 24 = 480 ตารางเมตร

3. สี่เหลี่ยมจัตุรัสรูปหนึ่งมีพื้นที่ 16 ตารางนิ้ว
3.1 แต่ละด้านมีขนาด
  พื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัส = ด้าน × ด้าน 
     16 = ด้าน × ด้าน
4 × 4 = ด้าน × ด้าน
 ด้าน = 4
3.2 เส้นรอบรูปยาว = 4 × ด้าน = 4× 4 = 16 นิ้ว

5. สระน้ำแห่งหนึ่งมีความกว้าง 10 เมตร ยาว 14 เมตร ลึก 5 เมตร จะสามารถบรรจุน้ำได้เท่าไหร่
ปริมาตรของสระ = กว้าง × ยาว × สูง
= 10 × 14 × 5
= 700 ลูกบากศ์เมตร

หน่วยวัดต่างๆ
1. น้ำหนักของคน ใช้หน่วยเป็น กิโลกรัม
2. ขนาดของสมุด ใช้หน่วยเป็น เซนติเมตร, นิ้ว
3. ระยะทางจากกรุงเทพถึงเลย ใช้หน่วยเป็น กิโลเมตร
4. พื้นที่ของห้องเรียน ใช้หน่วยเป็น ตารางวา, ตารางเมตร
5. ขนาดหน้าจอทีวี ใช้หน่วยเป็น นิ้ว
6. น้ำหนักของข้าว ใช้หน่วยเป็น กิโลกรัม, ตัน, ถัง

โจทย์ระคน
1. ฟ้ามีเงิน 3,600 บาทไปซื้อเสื้อ คิดเป็น 2 ใน 9 ของเงินที่ฟ้ามีอยู่
1.1 เสื้อราคา = (2/9) x 3600 = 7200/9 = 800 บาท
1.2 ถ้านำเงินที่เหลือไปซื้อหนังสือ คิดเป็น 3 ใน 8 ของเงินที่เหลือ ฟ้าจะเหลือเงินกี่บาท
ฟ้าจะเหลือเงิน 3600 – 800 = 3200 บาท
นำๆไปซื้อหนังสือ 3 ใน 8
หนังสือราคา = (3/8) x 3200 = 9600/8 = 1200 บาท
ฟ้าจะเหลือเงิน 3200 – 1200 = 2000 บาท

2. โรงเรียนแห่งหนึ่งมีนักเรียน 1,250 คนขาดเรียนไป 8% นักเรียนขาดเรียนกี่คน
วิธีทำ 8% ของ 1250 = (8/100) x 1250 = 10000/100 = 100 คน

3. พ่อซื้อทองมาราคา 20,000 บาท ขายไปที่ราคา 24,000 บาท พ่อมีกำไรร้อยละเท่าใด
วิธีทำ ได้กำไร 24000 – 20000 = 4000 บาท
ได้กำไรคิดเป็นร้อยละ (4000 x 100)/2000 = 20

4. ถ้าฝนเดินทางจากบ้านเดินด้วยอัตราเร็ว 40 เมตร/นาที ใช้เวลา 4 นาทีครึ่ง ตลาดอยู่ห่างจากบ้านฝนกี่เมตร
จาก  อัตราเร็ว 40 เมตร/นาที หมายถึง
1 นาที ฝนเดินทางได้ 40 เมตร
4 นาทีครึ่ง ฝนเดินทางได้ 40 x 4.5 = 160 เมตร
หรือ ใช้สูตร ระยะทาง = อัตรเร็ว x เวลา
จะได้  ระยะทาง 40 x 4.5 = 160 เมตร

5. พ่อเดินด้วยอัตราเร็ว 50 เมตรต่อนาที ถ้าบ้านกับร้านค้าอยู่ห่างกัน 1.5 กิโลเมตร พ่อต้องใช้เวลาเดินกี่นาที
จาก  อัตราเร็ว 50 เมตร/นาที หมายถึง
ระยะทาง 50 เมตร ต้องใช้เวลา 1 นาที
ระยะทาง 1 เมตร ต้องใช้เวลา 1/50 นาที
ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร(1500 เมตร) ต้องใช้เวลา 1/50 นาที
 = (1/50) x 1500 = 1500 / 50 = 30 นาที