ประเทศต่อไปเป็นประเทศที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วมาก
เวียดนาม (Vietnam)
ชื่อทางการ : สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
(Socialist Republic of Vietnam)
ที่ตั้ง :
ทิศเหนือ ติดกับ สาธารณรัฐประชาชนจีน
ทิศใต้ ติดกับ อ่าวไทยและทะเลจีนใต้
ทิศตะวันออก ติดกับทะเลจีนใต้
ทิศตะวันตก ติดกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
และ ติดกับราชอาณาจักร กัมพูชา
พื้นที่ : 331,689 ตารางกิโลเมตร (0.645 เท่าของประเทศไทย)
เมืองหลวง : กรุงฮานอย (Hanoi)
ประชากร : เป็น เวียด 80% เขมร 10 % ต่าย, ไท, เหมื่อง,
ฮั้ว(จีน), นุง, ม้ง
ภูมิอากาศ : เป็นแบบมรสุมเขตร้อน ชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก
เปิดโล่งรับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดผ่านทะเลจีนใต้
ทำให้มีโอกาสรับลมมรสุมและพายุหมุนเขตร้อน จึงมีฝนตกชุก
ในฤดูหนาว สามารถปลูกข้าวได้ปีละ 2 ครั้ง
ภูมิประเทศ ประเทศเวียดนามมีลักษณะคล้ายตัว s ขนาดใหญ่
ที่ยาวเหยียด โดยกินบริเวณไปตาม ความยาว ของคาบสมุทร
อินโดจีน ตลอดแนวพรมแดนมีความยาว 3,730 กิโลเมตร
พื้นที่ประมาณ 3 ใน 4 ของเวียดนาม ประกอบด้วยภูเขาและป่าไม้
ภาษา : ภาษาเวียดนาม (Vietnamese) เป็นภาษาราชการ ซึ่งเมื่อ
ปี พ.ศ. 2463 วงการวิชาการเวียดนามได้ลงประชามติที่จะใช้
ตัวอักษรโรมัน (quoc ngu) แทนตัวอักษรจีน (Chu Nom)
ในการเขียนภาษาเวียดนาม
ศาสนา : ส่วนใหญ่ชาวเวียดนามนับถือศาสนาพุทธ
นิกายมหายานสูงถึงร้อยละ 70 ที่เหลือนับถือคริสต์, ลัทธิขงจื้อ มุสลิม
สกุลเงิน : ด่อง (Dong : VND)
ระบอบการปกครอง : ระบอบสังคมนิยม (คอมมิวนิสต์)
โดยพรรคคอมมิวนิสต์เป็นพรรคการเมืองเดียว
* ประมุข-ประธานาธิบดี คือ นายเหงียน มินห์ เจี๊ยต (27 มิถุนายน 2549)
* หัวหน้ารัฐบาล-นายกรัฐมนตรี คือ นายเหงียน ถัน ดุง
* เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ คือ นายหน่ง ดึ๊ก หมั่น
การเมือง
การเมืองของเวียดนามมีเสถียรภาพ เนื่องจากมีพรรคคอมมิวนิสต์
เวียดนาม เป็นองค์กรที่มีอำนาจ สูงสุดเพียงพรรคการเมืองเดียว
ผูกขาดการชี้นำภายใต้ระบบผู้นำร่วม (collective leadership)
ที่คานอำนาจระหว่างกลุ่มผู้นำ ได้แก่
1. กลุ่มปฏิรูป ที่สนับสนุนการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจ นำโดย
อดีตนายกรัฐมนตรี ฟาน วัน ขาย
2. กลุ่มอนุรักษ์นิยม ซึ่งต่อต้านหรือชะลอการเปิดประเทศ
เพราะเกรงภัยของ “วิวัฒนาการที่สันติ” peaceful evolution
อันเนื่องมาจากการเปิดประเทศ และ
3. กลุ่มที่เป็นกลาง ประนีประนอมระหว่างสองกลุ่มแรก
นำโดยอดีตประธานาธิบดี เจิ่น ดึ๊ก เลือง ส่งผลให้รัฐบาล
เวียดนามต้องปรับแนวทางการบริหารประเทศให้ยืดหยุ่น
และเปิดกว้างมากขึ้น
* * * * *
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น