13 ก.ย. 2554

ภาษาอังกฤษม.ปลาย09

มาดูกันต่อกับภาษาอังกฤษเพื่อชีวิตและสังคม ระดับมัธยมปลาย
หน้า 105 Study this telephone conversation
ขอให้ศึกษาบทสนทนาทางโทรศัพท์ต่อไปนี้

Linda : Quality Catering. Can I help you?
ลินดา : Quality Catering ค่ะ...มีอะไรให้ฉันช่วยคะ?

Tom : Yes, you can, I am having a party on Friday night.
    Could you prepare some food for me?
ทอม : ครับ ผมกำลังจะจัดงานเลี้ยงในคืนวันศุกร์
    คุณช่วยเตรียมอาหารให้ผมหน่อยได้ๆหมครับ

Linda : Certainly. What kind of party is it?
ลินดา : ได้ค่ะ มันเป็นงานเลี้ยงแบบไหนคะ?

Tom : It’s a dinner party for eight people.
ทอม : มันเป็นงานเลี้ยงอาหารเย็นสำหรับ 8 คน

Linda : I see. What do you like us to prepare?
ลินดา : เข้าใจแล้วค่ะ คุณต้องการให้เราเตรียมอะไรคะ?

Tom : Could you make a main course and a dessert?
ทอม : คุณช่วยเตรียมอาหารชุดหลักและของหวานได้ไหมครับ?

Linda : No problem. Can you tell me what kind of food
       your guests like?
ลินดา : ไม่มีปัญหาค่ะ คุณช่วยบอกหน่อยได้ไม่ว่า
       แขกของคุณชอบอาหารประเภทไหน?

Tom : Well, most of them like fish, but some don’t eat meat.
ทอม : ครับ.. พวกเขาส่วนใหญ่ชอบปลา, แต่บางคนไม่ชอบเนื้อวัว

Linda : I could prepare selections of sea food and
    vegetarian keech with mushrooms and pepper.
ลินดา : ฉันสามารถเตรียมอาหารชุดประเภทอาหารทะเลกับ
     keech ที่เป็นผักที่มีเห็ดและพริกไทย

Tom : That sounds great! Can you make some
      chocolate cakes for dessert?
ทอม : ฟังดูดีมากๆเลย คุณช่วยทำเค้กช็อกโกแลต
      สำหรับเป็นของหวานได้ไหม?

Linda : Of course, I can.
ลินดา : ได้ค่ะ

Tom : Can you deliver the food to my house?
ทอม : แล้วคุณช่วยส่งอาหารนั่นมาที่บ้านของผมได้ไหม?

Linda : Yes. But I can’t deliver until 7 p.m. Is that Okay?
ลินดา : ได้ค่ะ แต่ฉันไม่สามารถส่งได้จนกว่าจะ 1 ทุ่ม ตกลงไหมค่ะ?

Tom : Yes. That’s fine. Thank you very much.
ทอม : ใช่ อย่างนั้นก็ดีแล้ว ขอบคุณมาก

อธิบายเสริม
วัฒนธรรมการทานอาหารของฝรั่ง เขาจะเสริฟอาหารเป็นอย่างๆ
(คล้ายโต๊ะจีน) ปกติจะแบ่งอาหารออกเป็น 3 ชุดใหญ่ คือ
อาหารเรียกน้ำย่อย , อาหารชุดหลัก, และของหวาน
* * * * *

หน้า 110
You : Hello. Is that Jane?

ยู : สวัสดี นั่นเจนใช่ไหม?

Anna : Oh! It's not. I am Anne, Jane’s sister.
    Could you hold on a minute, please?
แอนนา : โอ้ ไม่ใช่ค่ะ ฉันแอนนี่ น้องของเจน
    คุณช่วยรอสายสักครู่ได้ไม่คะ?

Jane : Hello.
เจน : สวัสดี

You : Hello, Jane. It’s me Peter. Could you give me Bob number?
     I want to talk to him about one group assignment.
ยู : สวัสดี เจน นี่ผมปีเตอร์ ผมขอเบอร์ของบ็อปหน่อยได้ไหม?
    ฉันต้องการพูดกับเขาเกี่ยวกับการทำงานกลุ่ม

Jane : Sure. It’s 02 2820999.
เจน : ได้เลย เบอร์ 02 2820999

You : Thanks.
ยู : ขอบคุณมาก

อธิบายเสริม
ปกติ It เป็นคำสรรพนา(pron.) ไม่ใช้กับคน
แต่ในประโยค It’s me, Peter. ใช้เป็นภาษาพูด
เป็นข้อยกเว้น

* * * * *

หน้า 111
Suda : Suda Catering, May I help you?
สุดา : สุดา คัตเตอร์ริ่ง มีอะไรให้รับดิฉันใช่ค่ะ?

Bob : I am having a party on Friday evening.
    Could you prepare some food for me?
บ็อบ : ผมจะจัดงานเลี้ยงในวันศุกร์ตอนเย็น
   คุณช่วยเตรียมอาหารให้ผมได้ไหม?

Suda : What kind of party is it?
สุดา : เป็นงานเลี้ยงแบบไหนหรือค่ะ?

Bob : It’s welcoming party for ten people.
บ็อบ : มันเป็นงานเลี้ยงตอนรับสำหรับ 10 คน

Suda : I see. What do you like us to prepare?
สุดา : เข้าใจแล้วค่ะ คุณต้องการให้เราเตรียมอะไรดีค่ะ?

Bob : I’d like some sea food and some dessert.
บ็อบ : ผมอยากได้อาหารทะเลและของหวาน

Suda : No problem.
สุดา : ไม่มีปัญหาค่ะ

Bob : Can you deliver the food to my house?
บ็อบ : คุณช่วยจัดส่งอาหารมาที่บ้านของผมได้หรือเปล่าครับ?

Suda : Yes, but I will deliver it at 7 p.m. Is that Okay?
สุดา : ได้ค่ะ แต่จะส่งมันตอน 1 ทุ่มตรง จะได้ไม่ค่ะ?

Bob: Yes, That’s fine. Thank you very much.
บ็อบ : ได้ นั้นดีแล้ว ขอบคุณมาก

อธิบายเสริม
1. I see. โดยปกติ จะแปลว่า ฉันเห็นแล้ว แต่ในบทสนทนานี้
    เป็นคำอุทานที่แปลว่า เข้าใจแล้ว
2. คำว่า it คำแรก หมายถึง party
3. คำว่า It คำที่ 2 หมายถึง food (some sea food and some dessert)

* * * *

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น