29 ส.ค. 2554

ภาษาอังกฤษ ม.ปลาย

คราวนี้เป็นการแปลภาษาอังกฤษ ระดับมัธยมปลายกันบ้าง
ที่มาจากหนังสือภาษาอังกฤษเพื่อชีวิตและสังคม
หน้า 49
Nida is at the bank. She is talking to the teller.
นิดาอยู่ที่ธนาคาร เธอกำลังพูดคุยกับพนักงานหน้าเคาร์เตอร์

Teller : May I help you?
พนักงาน : ผมจะช่วยอะไรคุณได้บ้างครับ?

Nida : Yes, please. I want to deposit this money into my account.
นิดา : ใช่ค่ะ ฉันต้องการที่จะฝากเงินจำนวนนี้เข้าบัญชีธนาคารของฉัน

Teller : Is that a savings account or a current account?
พนักงาน : (บัญชีของคุณ) เป็นบัญชีแบบสะสมทรัพย์หรือ
            บัญชีเงินฝากกระแสรายวันครับ?

Nida : I want to deposit it into my savings account.
นิดา : ฉันต้องการฝากเงินเข้าบัญชีกระแสรายวัน

Teller : Just fill out this deposit slip.
พนักงาน : (เพียงแค่) ก็เพียงแต่กรอกรายละเอียดในสลิปฝากเงิน..ครับ

Nida : O.K. Thank you. Here you are.
นิดา : ได้ค่ะ ขอบคุณ ได้แล้วค่ะ/นี่ไง

Teller : Don’t forget your account number.
พนักงาน : อย่าลืม(ใส่)เลขที่บัญชีของคุณด้วย...ครับ

Nida : Oh, thanks. I almost forgot.
นิดา : โอ้...ขอบคุณ...ฉันเกือบจะลืมไปแล้วนะ...

Teller : Is that all?   Do you need anything else?
พนักงาน : หมดแล้วใช่ไหมครับ?
         คุณต้องการทำอะไรอีกหรือเปล่า...ครับ?

Nida : No, thank you. That is all. Thanks for all your help.
นิดา : ไม่แล้วค่ะ...ขอบคุณ...หมดแล้ว... ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ

อธิบายเสริม
ในบทสนทนานี้มีคำศัพท์ที่น่าสนใจ เช่น
1. account ในที่นี้เป็น คำนาม(n) = บัญชีเงินฝากธนาคาร
   แต่ account ที่เป็นคำกริยา(v) = บรรยาย, อธิบาย, พิจารณา
2. fill out เป็นคำกริยา(v) = กรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม
3. want เป็นคำกริยา (v) = ต้องการ, อยากจะทำ (อะไร)
    และมีรูปแบบการและวิธีการใช้ ดังนี้
   want to + กริยาช่องที่ 1 (v1) = ต้องการทำอะไร
ตัวอย่าง
   I want to be a doctor. (ฉันต้องการเป็นหมอ)
   He wants to visit his aunt. (เขาต้องการที่เยียมป้า)

 want someone to + กริยาช่องที่ 1 (v1) = ต้องการให้ใครทำอะไร
ตัวอย่าง
  I want my son to be a doctor. (ฉันต้องการให้ลูกชายของฉันเป็นหมอ)
  He wants his sister to visit his aunt. (เขาต้องการให้น้องสาวที่เยี่ยมป้า)

* * * * * *

หน้า 50
Dialogue (บทสนทนา)

Susan : Excuse me. Can you help me, please?
ซูซาน : ขอโทษค่ะ คุณช่วยฉันได้ไม่ค่ะ?

Seller : Certainly. What can I do for you?
พนังงานขาย : แน่นอนค่ะ มีอะไรให้ฉันช่วยค่ะ?

Susan : I need to purchase a jacket.
ซูซาน : ฉันต้องการซื้อเสื้อแจ็คเก็ต

Seller : What is your size, please?
พนังงานขาย : ขนาดอะไรค่ะ?

Susan : Medium should be fine.
ซูซาน : ขนาดกลางน่าจะดี

Seller : Is this one O.K.?
พนังงานขาย : ตัวนี้ ได้ไหม?

Susan : Hmm, Can I try it on?
ซูซาน : อืมม.. ฉันของลองใส่ดูก่อนได้ไหม?

Seller : Sure. The fitting room is in the left corner.
พนังงานขาย : ได้ค่ะ ห้องลองเสื้ออยู่ที่มุมด้านซ้าย

After a while…..
หลังจากนั้น...

Susan : Does it look like a good fit?
ซูซาน : มันดูพอดีแล้วหรือยัง?

Seller : It’s definitely your size.
พนังงานขาย : นี้มันเป็นขนาดของคุณเลย

Susan : Yes, it is very nice. I’ll take it.
ซูซาน : ใช่...มันดีมากๆ ฉันจะเอาตัวนี้

Seller : How would you prefer to pay?
พนังงานขาย : คุณต้องการจ่ายเงินด้วยวิธีไหนค่ะ?

Susan : Can I use my credit card?
ซูซาน : ฉันสามารถใช้บัตรเครคิตได้ไม่ค่ะ?

Seller : Sure. You’ll just sign here.
พนังงานขาย : ได้ค่ะ...คุณเพียงลงชื่อตรงนี้ค่ะ

Susan : No problem.
ซูซาน : ไม่มีปัญหา

Seller : Thank you. I hope you enjoy your purchase.
      Good bye.
พนังงานขาย : ขอบคุณค่ะ ฉันหวังว่าคุณจะมีความสุขกับการซื้อของคุณ
     สวัสดีค่ะ

อธิบายเสริม

1. ในบทสนทนาบทมีคำว่า purchase อยู่ 2 ที่
purchase ตัวแรกเป็นคำกริยา(v) มีความหมายเหมือนกับ buy = ซื้อ
purchase ตัวแรกเป็นคำนาม(v) มีความหมายเหมือนกับ buying = การซื้อ
2. จากประ โยค Is this one O.K.?
    คำว่า one ในที่นี้เป็นคำสรรพนาม(pronoun)
    แทนคำว่า a jacket

3. try ... on  = ลองใส่(เสื้อ, รองเท้า), ลองทำ...(อะไร)
4. try to + v1 = พยายามทำ....(อะไร)
* * * * *

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น