7 ก.ย. 2554

วิชาพัฒนาทักษะชีวิต1-10

ในตอนนี้จะมาดูกันในเรื่องของระบบที่มีความสำคัญใน
การดำรงเผ่าพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต

ระบบสืบพันธุ์

การสืบพันธุ์ หมายถึง การผลิตสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกัน เพื่อให้สิ่งมีชีวิตนั้นๆ
ดำรงเผ่าพันธุ์ต่อไป มี 2 แบบคือ
1. การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ คือ การสืบพันธุ์ที่ไม่มีการผสมกัน
    ระหว่างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้กับเพศเมีย
2. การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ คือ การสืบพันธุ์ที่มีการผสมกันระหว่าง
    เซลล์สืบพันธุ์เพศผู้กับเพศเมีย

การสืบพันธุ์ของคนเป็นการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศโดยวิธีการปฏิสนธิภายใน
เมื่อชายและหญิงย่างเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ต่อมใต้สมองจะหลั่งฮอร์โมนกระตุ้น
ต่อมเพศ ชายคืออัณฑะ หญิงคือรังไข่ ให้ผลิตฮอร์โมนเพศและผลิตเซลล์สืบพันธุ์

ระบบสืบพันธุ์เพศชาย (Female Reproductive System)
1. อัณฑะ (Testis) มี 2 อัน ภายในมีหลอดสร้างอสุจิ ทำหน้าที่สร้าง
    ตัวอสุจิและผลิตฮอร์โมนเพศชาย
2. ถุงหุ้มอัณฑะ (Scrotum) ควบคุมอุณหภูมิให้พอเหมาะในการสร้างอสุจิ
    คือ 34 องศาเซลเซียส
3. หลอดเก็บอสุจิ (Epididymis) มีลักษณะเป็นท่อเล็กๆยาวมาก
    ทำหน้าที่เก็บตัวอสุจิเพื่อให้แข็งแรงมากขึ้น
4. หลอดนำอสุจิ (Vas deferens) เป็นทางผ่านของตัวอสุจิเข้าสู่ท่อปัสสาวะ
5. ต่อมสร้างน้ำเลี้ยงอสุจิ (Seminal vesicle) ทำหน้าที่สร้างอาหาร
   เพื่อใช้หล่อเลี้ยงตัวอสุจิ ได้แก่ วิตามินซี, น้ำตาลฟรุกโตสและ
   โปรตีนโกลบูลิน
6. ต่อมลูกหมาก (Prostate gland) มีหน้าที่สร้างสารที่มีฤทธิ์เป็น
    เบส(ด่าง)อ่อนๆ  เพื่อใช้ล้างความเป็นกรดที่ท่อปัสสาวะของ
    เพศชายและช่องคลอดของเพศหญิง
7. ต่อมคาวเปอร์ (Cowper gland) ทำหน้าที่หลั่งสารหล่อลื่นในท่อปัสสาวะ
8. ลึงค์หรือองคชาติ (Penis) เป็นส่วนที่ยื่นออกมาจากร่างกาย อยู่ระหว่าง
   อัณฑะทั้ง 2 ข้าง ภายในมีท่อปัสสาวะ มีช่องเปิดสำหรับขับน้ำอสุจิ
   และน้ำปัสสาวะออกมา

โดยทั่วไปเพศชายจะเริ่มสร้างตัวอสุจิได้เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นประมาณ
12-13 ปีและจะสร้างไปจนตลอดชีวิต ตัวอสุจิประกอบด้วยด้านส่วนหัว
ซึ่งภายในมีนิวเคลียสและส่วนหางที่ยาวช่วยในการเคลื่อนที่

ในการหลั่งน้ำอสุจิแต่ละครั้ง จะมีน้ำอสุจิประมาณ 3-4 ลูกบาศก์เซนติเมตร
มีตัวอสุจิประมาณ 350-500 ล้านตัว ตัวอสุจิที่หลั่งออกมาจะมีชีวิตอยู่ได้
ประมาณ 2 ชั่วโมง แต่อยู่ในร่างกายเพศหญิงได้ประมาณ 2 วันหรือ 48 ชั่วโมง


ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง (Female Reproductive System)
แบ่งได้ 2 ส่วน คือ
1. อวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิงภายนอก ประกอบด้วย
   1.1)  คลิทอริส (clitoris) เป็นส่วนที่ปรากฎอยู่ทางส่วนบนของแคมเล็ก
มีลักษณะการเจริญเช่นเดียวกับลึงค์ของผู้ชาย คือมีเนื้อเยื่อที่แข็งตัวได้
มีปลายประสาทมาสิ้นสุดมากจึงรับความรู้สึกต่างๆ ได้เร็ว
   1.2) แคมใหญ่ (labia majora) เป็นส่วนของผิวหนังที่มีก้อนไขมัน
ด้านหน้าของแคมใหญ่ทั้งสองข้างจะติดกับเนินหัวเหน่า แคมใหญ่
จะมีการเจริญมาเช่นเดียวกับถุงอัณฑะของเพศชาย
   1.3) แคมเล็ก (labia minora) เป็นส่วนของผิวหนังที่อยู่ด้านในของ
แคมใหญ่และถูกแคมใหญ่ปิดทับอยู่ แคมเล็กมีต่อมไขมันมาก
เพื่อช่วยให้เกิดการหล่อลื่นและป้องกันการเสียดสีขณะเกิดการร่วมเพศ

2. อวัยวะสืบพันธุ์ของเพศหญิงภายใน ประกอบด้วย
  2.1) รังไข่ (Ovary) มี 2 อันอยู่คนละข้างของมดลูก ทำหน้าที่สร้างไข่
และฮอร์โมนเพศหญิง โดยปกติจะมีการตกไข่ทุกๆ 28 วัน โดยแต่ละครั้ง
จะตกเพียงใบเดียวจากรังไข่แต่ละข้างสลับกันทุกเดือน
  2.2) ท่อนำไข่หรือปีกมดลูก (Ovulation / Fallopian tube) บุด้วยเซลล์
ที่มีขนสั้นๆ ทำหน้าที่พัดโบกไข่ที่ตกจากรังไข่ให้เข้าไปในปีกมดลูก
เป็นบริเวณที่เกิดการปฏิสนธิ
  2.3) มดลูก (Uterus) ภายในเป็นโพรงสำหรับรองรับการฝังตัวของ
ตัวอ่อนจนถึงกำหนดคลอด มีขนาดเท่าผลชมพู่ ถ้ามีไข่ตก ผนังของ
มดลูกจะมีหลอดเลือดมาหล่อเลี้ยงจำนวนมาก
  2.4) ช่องคลอด (Vagina) เป็นทางผ่านของสเปิร์มเข้าไปในร่างกาย,
เป็นทางคลอดของทารกและเป็นทางออกของประจำเดือน


การปฏิสนธิ คือ กระบวนการที่เซลล์ของเพศชาย รวมกับเซลล์
ของเพศหญิง ทำให่เกิดเซลล์ใหม่

การตกไข่ คือ การที่ไข่สุกและออกจากรังไข่เข้าสู่ท่อนำไข่
ในช่วงกึ่งกลางของรอบเดือน ถ้านับวันแรกที่มีประจำเดือนเป็น
วันที่ 1 การตกไข่จะเกิดขึ้นประมาณ วันที่ 13-15

การเจริญเจริญโตของไข่ที่ได้รับการผสมกับอสุจิ(เอ็มบริโอ)
1. เมื่อไข่ได้รับการผสม จะมีการแบ่งตัวจาก 1 เป็น 2 เป็น 4 ไปเรื่อยๆ
พร้อมกับจะเคลื่อนที่จากท่อนำไข่เพื่อไปฝังตัวที่ผนังมดลูก ซึ่งมี
ลักษณะที่หนามากขึ้นเพื่อเตรียมตัวสำหรับรับไข่ที่ได้รับการผสม
2. เมื่อเอ็มบริโอฝังตัวกับผนังมดลุกแล้วนั้น ก็ยังคงมีการเปลี่ยนแปลง
รูปร่างต่อไปเรื่อยๆจนกระทั่ง มีอายุได้ 8 สัปดาห์
3. เอ็มบริโอจะมีลักษณะทุกอย่างเหมือนกับคนและกระดูกในร่างกาย
จะเปลี่ยนจากกระดูกอ่อนเป็นกระดูกแข็ง โดยมีการเปลี่ยนแปลงดังนี้

สัปดาห์ที่ 3  เริ่มมีหัวใจ สมอง และกระดูกไขสันหลัง
สัปดาห์ที่ 4  เริ่มมี ตา ปุ่มแขน และปุ่มขา
สัปดาห์ที่ 5 ปุ่มแขนและปุ่มขาขยาายขนาดใหญ่ขึ้น เรื่อยๆ
สัปดาห์ที่ 6 เริ่มมีหู
สัปดาห์ที่ 7 เริ่มมีแผดานในช่องปาก
สัปดาห์ที่ 8 เริ่มปรากฏอวัยวะเพศภายนอก กนะดูกในช่องปาก
   เปลี่ยนจากกระดูกอ่อนเป็นกระดุกแข็งและมีทุกอย่างเหมือนคน
   หลังจากนั้นเป็นการเจริยเติบโตของอวัยวะต่างๆทั้งภายนอกและ
   ภายใน เพื่อให้สมบูรณ์และพร้อมที่จะทำงานได้
สัปดาห์ที่ 38 (เดือนที่9) คลอดออกมาเป็นทารก


การท้องนอกมดลูก คือ การที่ไข่ได้รับการปฏิสนธิแล้วไม่ไป
ฝังตัวที่ผนังมดลุกแต่กลับไปฝังตัวที่อื่นเช่น บริเวณช่องท้อง
บริเวณปีกมดลูก ซึ่งทำให้ผู้เป็นมารดามีอาการปวดท้อง
อย่างรุนแรงและอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้

* * * * *

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น